ผู้เขียน นางกุสุมา ลอยฟ้า
ทิศทางของการประเมิน หมายถึงแนวโน้มหรือทางใหม่ ๆ ในการประเมิน แบ่งออกเป็น 2 ประการ คือ ทิศทางของการประเมินทั่วไป กับ ทิศทางของการประเมินทางการศึกษา ซึ่งประการแรกจะกล่าวถึงทิศทางของการประเมินทั่วไปก่อน ทิศทางการประเมินทั่วไป หมายถึงแนวโน้มหรือทางใหม่ ๆ ในการประเมิน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในยุคที่ 4 ตามการแบ่งของกูบาและลินคอล์น มีการเปลี่ยนแปลงจากการประเมินในยุคก่อน ๆ หลายประการ ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้การประเมินมีความเป็นสากลมากขึ้น สามารถพิจารณาในด้านต่างๆ ดังนี้
1.ด้านแนวคิดเกี่ยวกับการประเมิน นิยมใช้แนวคิดของการประเมินในยุคที่ 4 รากฐานแนวคิด
และความเชื่อมาจากกระบวนทัศน์แบบสร้างสรรค์นิยมที่โต้แย้งกับแนวคิดเดิมว่าหลักการแสวงหาความรู้เชิงประเมินที่เป็นความจริงแท้ด้วยการใช้รูปแบบและวิธีการประเมินเชิงปริมาณมีข้อจำกัดคือความรู้ทางการประเมินแบบดั้งเดิมไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมในสังคมที่มีความซับซ้อน รวมทั้งมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องผลการประเมินส่วนใหญ่เป็นประโยชน์ต่อระดับสูงผู้ปฏิบัติในระดับล่างได้รับผลประโยชน์จากการประเมินน้อย รูปแบบหรือวิธีการประเมินไม่ตอบสนองต่อปฏิกิริยาของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผลของการประเมินที่ได้จากการวัดด้วยข้อมูลเชิงปริมาณส่วนใหญ่มีความคลาดเคลื่อน ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้นักทฤษฎีและผู้เชี่ยวชาญทางการประเมินได้เสนอทางเลือกที่เน้นการประเมินแบบตีความหมาย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย วิธีการประเมินในยุคที่ 4 มีลักษณะสำคัญอยู่ 5 ประการ คือ
...1.ต้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรยายรายละเอียดให้กระจ่างชัดเกี่ยวกับการดำเนินงาน
...2.ความรู้ด้านการประเมินที่ดีต้องเป็นที่ยอมรับว่ามีความเที่ยงตรง เชื่อถือได้และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะประเมิน เพราะมีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมาก
...3.รูปแบบและวิธีการประเมินไม่เน้นกรอบความคิด ไม่ยึดกับวิธีการประเมินแบบใดแบบหนึ่งตายตัว เน้นการประเมินเชิงธรรมชาติ
...4.นักประเมินมีบทบาทหน้าที่หลักในการดำเนินการประเมินร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ให้บริการ ให้คำปรึกษาให้กำลังใจแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับความร่วมมือร่วมใจในการประเมิน และประการที่
...5.ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการประเมินประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่าย
จะเห็นได้ว่าแนวคิดเกี่ยวกับการประเมินในยุคนี้จะใช้วิธีการแสวงหาความรู้ทางการประเมิน ด้วยวิธีการแสวงหา ค้นหา ผู้เกี่ยวข้องกับการประเมินมีส่วนร่วมมาก ผู้ใช้ผลการประเมินมีหลายกลุ่ม ใช้ผลการประเมินแบบเน้นความเข้าใจแนวคิด และมีการใช้ผลการประเมินในระยะยาว ใช้ความรู้จากหลายสาขาวิชา และมีการประเมินงานประเมินซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้พัฒนามาเป็นวิธีการประเมินที่นิยมใช้กันในยุคนี้
2.วิธีการประเมินที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีทั้งหมดอยู่ 4 วิธีคือ 1.ใช้วิธีการประเมินที่ตอบสนองผู้ใช้ผลการประเมิน วิธีการนี้จะเน้นการบรรยายความสัมพันธ์ขององค์ประกอบตามที่คาดหวังและที่เกิดขึ้นจริง แล้วตัดสินคุณค่าโดยเปรียบเทียบกับมาตรฐานในทัศนของผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่าย ส่วนการตัดสินขั้นสุดท้ายเป็นการใช้ดุลพินิจของผู้ประเมินเอง 2.การประเมินแบบมีส่วนร่วม แบบนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักประเมินอาชีพกับบุคลากรภายในหน่วยงานในการประเมินการดำเนินงานของหน่วยงาน 3.การประเมินแบบเสริมพลังอำนาจ เป็นการประเมินแบบมีส่วนร่วมที่นักเข้าไปมีส่วนร่วมในการประเมินของบุคลากรในหน่วยงานค่อนข้างน้อยแต่จะทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะหรืออำนวยความสะดวกอำนาจในการประเมินขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ มีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายวงการ และ 4.การประเมินโดยมีฝ่ายตรงข้าม เป็นการประเมินเพื่อลดความลำเอียงในการประเมิน มีจุดเด่นคือให้ความสนใจในลักษณะบางเรื่องที่เป็นจุดประสงค์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการทำให้ได้ข้อมูลตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะเห็นได้ว่าการประเมินมีแนวโน้มที่จะใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วมระหว่างผู้ประเมินและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระดับต่างๆมากขึ้นโดยที่ผู้ประเมินเข้าไปมีบทบาทเพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและมุ่งพัฒนาตนเองตามศักยภาพของบุคคลเหล่านั้นโดยใช้วิธีการเชิงธรรมชาติ มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ข้อดีคือ ไม่ส่งเสริมการแข่งขันทำให้ทั้งผู้ประเมินและผู้ถูกประเมินไม่เกิดความเครียด เป็นการประเมินที่ใช้ขอมูลจากหลายแหล่งรอบด้านซึ่งสอดคล้องกับสภาพจริงมากที่สุด เป็นการประเมินที่เน้นความเป็นมนุษย์สอดคล้องกับความเป็นมนุษย์ และสุดท้ายคือมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนข้อจำกัดของการประเมินเชิงธรรมชาติและการประเมินแบบมีส่วนร่วมมีดังนี้ ประการแรกรูปแบบการประเมินขึ้นอยู่กับผู้ประเมินเพราะฉะนั้นผู้ประเมินต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงมิเช่นนั้นจะเกิดการผิดพลาดในการวิเคราะห์และแปลความหมาย ประการที่ 2ต้องใช้เวลา แรงงาน และทรัพยากรเป็นอย่างมาก ประการที่ 3 การที่ให้ผู้ประเมินเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการอย่างลึกซึ้งอาจเป็นดาบสองคมคืออาจก่อให้เกิดอคติได้ จึงควรใช้ผู้ประเมินที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการที่มุ่งประเมิน
3.มีองค์กรหรือสมาคมทางการประเมิน การที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ชุมชนของการประเมินจึงขยายวงกว้างขวางมากยิ่งขึ้น มีองค์กรหรือสมาคมทางการประเมินเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากมีทั้งองค์กรภายในประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ศูนย์การประเมิน สมาคมทางการประเมินของสหรัฐอเมริกา กลุ่มสนใจในการประเมินนานาชาติ และการประเมินข้ามวัฒนธรรม และองค์กรความร่วมมือระหว่างชาติทางการประเมิน มีการแลกเปลี่ยนนักประเมินจากภูมิภาคอื่น ๆ ทำให้มีการขยายองค์ความรู้ทางการประเมินอย่างกว้างขวาง
4.มีแหล่งข้อมูลและการเผยแพร่สารสนเทศทางการประเมินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ องค์กร
หรือสมาคมทางการประเมินมีการเผยแพร่สารสนเทศและติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตทำให้โลกของการประเมินสามารถเชื่อมโยงกันได้ตลอดเวลา
5.มีการผลิตบุคลากรทางการประเมิน และการเผยแพร่ความก้าวหน้าทางการประเมินมีการจัด
หลักสูตรเพื่อผลิตบุคลากรทางด้านการประเมินในสถาบันอุดมศึกษาอย่างกว้างขวาง และมีวารสารที่เผยแพร่สารสนเทศด้านการประเมินทั้งที่เป็นสิ่งพิมพ์ และเผยแพร่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
แนวโน้มของการประเมิน ตามการพยากรณ์ของวอร์เธ็น
...1.การประเมินจะเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น
...2.จะมีการประเมินในองค์กรทั้งของรัฐและเอกชน
...3.การประเมินจะเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
...4.วิธีการประเมินที่ใช้อยู่ในสหรัฐอเมริกาจะมีการจำลองไปใช้ในบริบทของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
...5.การประเมินบางด้านอาจมีการขยายตัวอย่างช้า ๆจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เช่น ด้านสุขภาพ
.....การศึกษา จิตวิทยา การจัดสวัสดิการสังคม
...6.การประเมินและนักประเมินจะถูกแทรกแซงทางการเมืองมากขึ้น
...7.จะมีการเผยแพร่สารสนเทศเกี่ยวกับการประเมินอย่างต่อเนื่อง
...8.ประเด็นเรื่องจริยธรรมและมาตรฐานต่าง ๆ จะเป็นเรื่องที่กล่าวถึงกันในกลุ่มนักประเมิน
...9.การประเมินโครงการจะเติบโตอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ก้าวไปสู่การเป็นวิชาชีพต่อไป
...10.การที่สังคมมีความต้องการการประเมินเป็นอย่างมากอาชีพนักประเมินจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้น
...11.มีการจัดหลักสูตรด้านการประเมินมากขึ้น
...12.การประเมินภายในจะกลายมาเป็นภาระงานขององค์กรต่าง ๆ
...13.ความก้าวหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีทำให้รูปแบบการรายงานการประเมิน
......เปลี่ยนไปมีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการรายงานผลมากขึ้น
...14.ความก้าวหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีทำให้มีการใช้เทคนิคการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีกลยุทธ์มากขึ้น
ส่วนทิศทางการประเมินทางการศึกษา ก็มีความสอดคล้องกับทิศทางการประเมินทั่วไป
แต่จะประยุกต์หลักการมาใช้กับบริบททางการศึกษา พิจารณาได้จากประเด็นต่าง ๆ เช่นเดียวกันได้แก่ประการที่ 1 แนวคิดและวิธีการทางการศึกษา และนิยมแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการประเมินเชิงธรรมชาติและการมีส่วนร่วมมากขึ้น ในหลายประเทศกำหนดให้มีการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสาธารณชนให้มั่นใจว่าสถาบันการศึกษาสามารถให้ผลผลิตทางการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งหมายความว่าองค์กรทางการศึกษาควรมีการประเมินทั้งระบบอยู่เสมอ ประการที่ 2 มีองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการประเมินทางการศึกษา มีทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการประเมินทางการศึกษาโดยเฉพาะ เช่นคณะกรรมการร่วมทางมาตรฐานเพื่อการประเมินทางการศึกษา สมาคมวิจัยประเมินผล และองค์กรการประเมินที่ประเมินทั่วไป ประการที่ 3 มีการผลิตบุคลากรทางการศึกษา ประการที่ 4 มีแหล่งข้อมูลและการเผยแพร่ความก้าวหน้าเกี่ยวกับการประเมินทางการศึกษา สำหรับทิศทางการประเมินทางการศึกษาในประเทศไทย มีแนวคิดและวิธีการสอดคล้องกับแนวคิดของสากล พิจารณาได้จากแนวคิดและวิธีการประเมินทางการศึกษาของประเทศไทย การผลิตบุคลากรด้านการประเมินทางการทางการศึกษา สถาบันการศึกษาต่าง ๆมีการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ด้านการประเมินมากขึ้น หลายสถาบันจัดหลักสูตรการฝึกอบรม เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐานและหลักการสำคัญของการประเมิน มีความสามารถในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในเชิงระบบที่เกี่ยวข้องกับการประเมิน มีความสามารถในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในเชิงระบบที่เกี่ยวข้องกับการประเมิน
ทิศทางของการประเมินทางการศึกษาในประเทศไทย มีแนวคิดและวิธีการที่กำหนดขึ้นตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 สอดคล้องกับแนวคิดของสากล แนวโน้มของการประเมินทางการศึกษาให้ความสำคัญกับการประเมินตนเองมากขึ้น เพราะหากมีการดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสมและมีการนำไปใช้จะมีประโยชน์ในการพัฒนาตามศักยภาพของตนเป็นอย่างมาก
วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น